กรณีรถถัง จิตรเมืองนนท์ น่าศึกษาและทำความเข้าใจอย่างยิ่ง กับคำว่า “นักกีฬาอาชีพ” และนักกีฬาอาชีพที่มีชื่อเสียงเงินทองจะทำอย่างไรให้มันยิ่งใหญ่ ยาวนาน จนกว่าจะเลิกชก หลังสัปดาห์อันกดดันจากกระแสโจมตีเรื่อง “ไม่มืออาชีพ”รถถัง ขึ้นเวทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแต่ด้วยชั้นเชิง ฝีมือ กระดูกมวย นั้นเหนือกว่า เจคอบ สมิธ จึงชกชนะแบบสบายๆ แทบไม่เหนื่อยอะไรเลย
แถมสับศอกจน “เด็กหงส์” เลือดอาบทั้งตัว นับจากนี้จะยังไงต่อไปเมื่อรุ่นนี้มันคือรถถัง จิตรเมืองนนท์ “แชมป์ว่าง”ลุยต่อหรือขึ้นไปแบนตั้มเวทสำหรับประเด็นที่ถกเถียงกันใหญ่โตคือเรื่อง”ความเป็นมืออาชีพ” ของนักกีฬาอาชีพคนหนึ่งก่อนโยนความผิดไปให้การเล่นฟุตบอลของ “รถถัง”ว่าคือปัจจัยหลักในความเป็นจริงแล้วนั้นฟุตบอลคือกีฬาที่ทั้งคล้ายและแตกต่างจากมวย มีการเคลื่อนไหวของสรีระ การใช้กล้ามเนื้อ มีการปะทะเกิดขึ้น
เวทีมวยกับสนามบอลรถถัง จิตรเมืองนนท์ มีความต่างแน่ เวทีมวยไม่มีหญ้าจริง, หญ้าเทียม มีแต่ผืนผ้าใบ นักบอลอาชีพที่อยู่กับฟุตบอลมานานบางทีแค่วอร์มก่อนแข่งยังเจ็บ นั่นยังไม่โดนคู่แข่งเตะเลยนะครับ แล้วถ้าไม่ใช่นักบอลอาชีพแต่มาเล่นบอล…ก็น่าคิด เพราะกระบวนการฝึกซ้อมและแข่งขันมันไม่เหมือนกัน ดังนั้น…นักกีฬาอาชีพจะโฟกัสกับกีฬาของตัวเองเป็นหลัก นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปออกกำลังเล่นกีฬาอื่นไม่ได้ กรณีการตกตาชั่งของนักมวย….มันมีหลายปัจจัยครับ จะเหมารวมว่าไปเตะบอลแล้วมีผลกระทบอย่างมาก…คงไม่ใช่ทั้งหมด
การเตะบอลของรถถัง จิตรเมืองนนท์ สามารถทำได้ครับ เพียงแต่ ต้องอยู่ในความพอเหมาะ พอควร เท่านั้นเอง จริงๆแล้วเรื่องที่เราเถียงกันอยู่นี้…มันไม่ใช่การไปเตะบอลของรถถัง มันคือเรื่องนักกีฬาอาชีพที่มีแนวทางปฏิบัติเป็นของตัวเอง
เพื่อให้ “อาชีพ” ของเรานั้นมีความสำเร็จจนสุดทาง ซึ่งส่วนใหญ่ในระดับโลกมี Agency หรือ Sport Agency ดูแล การดูแล ไม่ใช่แค่ “เงิน” แต่มันคือทุกเรื่องที่เป็น “ผลประโยชน์” แล้วมันจะสร้าง “มูลค่า” เสริมได้อีกมากมายให้นักกีฬาอาชีพนั้นๆ
นำมาซึ่งเงินทองมากมายก่ายกอง
- ภาพลักษณ์…..การวางตัว, การออกสื่อ,การแต่งกาย
การใช้สื่อโซเชียลให้เกิดประโยชน์ เช่นนำมาหารายได้ จากการโพสต์
- การวางโปรแกรมชีวิตแต่ละวัน…ซ้อม, แข่ง, ออกงานอีเว้นต์ลูกค้า….อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้และอย่าหาทำ
- โภชนาการ….นี่แหละสำคัญต่อนักกีฬาทุกชนิดไม่แค่นักมวย
- โค้ช….จะช่วยเสริมสร้างจุดแข็ง ลบจุดอ่อน นักกีฬาหลายชนิดเปลี่ยนโค้ชบ่อย เช่นเทนนิส จะมีทั้งคอร์ต โค้ชหญ้า, โค้ชคอร์ตดิน เป็นต้น
- วิทยาศาสตร์การกีฬา…อันนี้ชัดอยู่แล้ว
- การตลาด…เอเจนซี หาสินค้ามาเชื่อมแบรนด์กับนักกีฬาได้เงินมากมาย
- จิตวิทยา…. เก่งแล้ว ดังแล้ว รวยแล้ว จะวางตัวอย่างไร
นักกีฬาระดับทอปจะมีนักจิตวิทยาคอยดูแล
มีอีกหลายข้อเอาเท่าที่ผมนึกได้ ซึ่งเอเจนซี จะคอยดูแลให้หมด ซึ่งบ้านเรายังไม่มีอะไรแบบนี้เป็นเรื่องเป็นราว ก็มี ผจก.ส่วนตัวกันอยู่แต่ไม่ได้มืออาชีพแบบเมืองนอกแน่นอน กรณีนักมวยในบ้านเรานั้น…”ค่ายมวย” คือ เอเจนซี นั่นแหละการควบคุมมันอยู่ตรงนั้น แม้ไม่ใช่แบบมืออาชีพเขาทำกัน กระนั้นมันก็พอช่วยได้เยอะ แต่ถ้ามีเอเจนซี มันจะดีมากกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่า
รถถัง จิตรเมืองนนท์มี “มูลค่า” ในเชิงการตลาดกีฬาแน่นอนล้าน% มูลค่าของเขาควร “เพิ่ม” มากกกว่าที่เป็นอยู่ หากเขามี “การดูแล” ที่ถูกแนวทางตามแบบฉบับมืออาชีพเท่านั้นเอง เลิกเถียงเรื่อง “เตะบอล” ได้แล้วครับ มันยิบย่อยไป เรื่องใหญ่กว่านั้นคือทุกสิ่งอย่างที่ รถถัง ต้องก้าวเดิน
ตามเส้นทางมวยอาชีพของตัวเอง เขาจะรักษามันเอาไว้ได้นานตราบเท่าที่สังขารจะไม่อำนวย กอบโกยตรงนั้นได้มากมายมหาศาลขนาดไหน ในเมื่อบ้านเราไม่มีเอเจนซี ระดับมืออาชีพมาดูแล
ดังนั้นก็ขึ้นกับตัวเขาเองว่าจะไปแนวทางไหนรถถัง จิตรเมืองนนท์ อยู่รุ่นนี้หรือจะปีนขึ้นไปรุ่นแบนตั้มเวท กติกามวยไทย นั่นจะเจอกับ ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่9 หรือจะ คิ๊กบ๊อกซิ่ง ที่มี โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี้ รออยู่ ไม่ว่าเลือกรุ่นเดิมหรือขยับน้ำหนักขึ้นไป เชื่อได้ว่าความมุ่งมั่น ความตั้งใจของ “รถถัง” ยังคงมีอยู่เยอะ แต่…ถ้าจะให้ดีมากกว่าที่เป็นอยู่